ชี้ญวนลดค่าไฟดึงทัพลงทุนอีกระลอก

ส.อ.ท.ชี้ปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจ แนะญวนลดค่าไฟดึงทัพลงทุนอีกระลอก

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ ปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศไทย ได้แก่ 4 อุตสาหกรรมหลักๆ ประกอบด้วย 1.อุตสาหกรรม BCG (Bio Circular Green) ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) Smart Electronic และ Digital ที่ ส.อ.ท.ผลักดันร่วมกับภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้ฟื้นคืนมาและสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกโดยเฉพาะที่ขณะนี้โลกได้ก้าวสู่ยุค BANI World หรือการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจาก B : Britten ความเปราะบางจากเศรษฐกิจโลกที่อาจถดถอย A : Anxious หรือความกังวลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ N : Nonlinear ความเข้าใจยากจากภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนไป ทั้งสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี และ I : Incomprehensible ความไม่เข้าใจจากปัญหา Disruption

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทยได้สูญเสียขีดความสามารถทางการแข่งขัน จากหลายๆปัจจัย ที่สำคัญคือต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง และงวด ม.ค.-เม.ย.2566 สำหรับประเภทธุรกิจอุตสาหกรรมที่ปรับมาอยู่เฉลี่ย 5.33 บาทต่อหน่วย กลายเป็นต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม และยังเป็นอุปสรรค ต่อการดึงการลงทุนตรงจากต่างประเทศ ส่งผลให้เวียดนาม ยิ่งมีแต้มต่อมากขึ้นไปอีกจากความได้เปรียบในแง่เขตการค้าเสรีที่เซ็นสัญญากับหลายๆ ประเทศมากกว่าประเทศไทย รวมถึงค่าแรงที่ต่ำอยู่แล้ว

“ปีที่ผ่านมาเวียดนามมีค่าไฟฟ้าพียง 2.88 บาทต่อหน่วย และล่าสุดได้ลดเหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งสวนทางกับประเทศไทย หากไทยยังคงมีค่าไฟที่แพง เอฟดีไอ จากประเทศใด จะเข้ามาลงทุนในไทย จึงอยากฝากให้คนรับผิดชอบทุกคน เพราะหากไม่เร่งแก้ไขอาจจะทำให้ไทยเสียขีดความสามารถในการแข่งขันแบบถาวร”

ขณะเดียวกัน ในปัจจุบัน โลกได้ก้าวจากยุค VUCA World (ความผันผวน ความไม่แน่นอน ความสลับซับซ้อน และความคลุมเครือ) ที่ถูกดิสรัปชัน มาสู่ BANI World ดังนั้น ประเทศไทยซึ่งมีโครงสร้างเศรษฐกิจ ที่พึ่งพิงการส่งออกและท่องเที่ยวที่อาศัยตลาดต่างประเทศจึงย่อมได้รับผลกระทบ.