วิกฤติของแพง ปัจจุบันลุกลามไปถึง ฟาร์มไก่ชน ได้รับผลพวงจาก ราคาข้าวเปลือก ขยับปรับราคาเพิ่มขึ้น
ด้านร้านค้าขายข้าวเปลือกไก่ชนชี้มีลัษณะทิศทางมากขึ้นอีก เหตุมาจาก “ราคาน้ำมัน” แพง กรณีวิกฤติ “ของแพง” ปัจจุบันลุกลามไปถึง “ฟาร์มไก่ชน” ได้รับผลพวงจาก “ข้าวเปลือกไก่ชน” ราคาแพงแพงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ขณะร้านค้าขายของกินไก่ชนเจาะจงแนวโน้มราคาข้าวไก่จะปรับราคาให้เพิ่มขึ้นกว่านี้อีก เพราะเหตุว่า “ราคาน้ำมัน” แพง
วันที่ 7 เดือนกรกฎาคม 2565 ที่จังหวัดปราจีนบุรี นักข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ “ฟาร์มไก่ชน” ของซุ้มไก่ชนนายชัชชัย หรือ อาจารย์กุ้ง อายุ 40 ปี บ้านนิคมปรับปรุง ตำบลบางปลาแดก อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดจังหวัดปราจีนบุรี โดยนายชัชชัย ผู้ครอบครองฟาร์มไก่ชน เปิดเผยว่า ตนได้ใช้เวลาว่างหันมาทำเกษตรผสม เช่น เลี้ยงปลา กุ้ง ปลูกผลไม้ทั้งยังพุทรา ส้มโอ ฝรั่ง และก็ทำฟาร์มเพาะพันธุ์ไก่ชนขาย โดยได้พ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ดีซึ่งเป็นไก่ชนเงินล้านจากรุ่นพี่ที่เชื่อถือกันได้ส่งมาให้ตนเพาะแพร่พันธุ์ ซึ่งจะขายในราคาไก่รุ่นกระทง ตัวละ 1,000 บาท
นายชัชชัย พูดว่า สำหรับเพื่อการเพาะเลี้ยงไก่ชนนั้นในเศรษฐกิจตอนนี้ก็ได้รับผลพวงจากราคาน้ำมันแพง เพราะเหตุว่าทำให้มีต้นทุนสูงมากขึ้น นำมาซึ่งการทำให้ราคาข้าวเปลือกแพงมากขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฟาร์มตนนั้นซื้อข้าวเปลือกคัดเลือกที่ฝัดแกลบออก ในราคาถังละ 125 บาท/กระสอบ ซึ่งก่อนหน้านั้นราคาถังละ 100 บาท
ด้านเถ้าแก่จัดจำหน่ายอาหารสัตว์ในตลาดนัดวังกุ้งบ้านสร้าง จังหวัดจังหวัดปราจีนบุรี พูดว่า ราคาขายข้าวเปลือกสำหรับเลี้ยงไก่ชน อำเภอบ้านสร้าง จัดจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 120 บาท/กระสอบ บางร้านค้าราคา 125-130 บาท/กระสอบ ตอนที่เกษตรกรกสิกรข้าว (นาปรัง) ระหว่างนี้ยังคงอยู่ระหว่างคอยการเก็บเกี่ยวผลิตผล คาดเดาว่าราคาขายข้าวเปลือกของเกษตรกรปีนี้คงจะอยู่ในราคาระหว่าง 8,000 บาท/ตัน